โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ คืออะไร แตกต่างกันยังไง?

โบท็อกซ์ (Botox) คือชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า

คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถจับกับปลายเส้นประสาทที่มาควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับ Botox หดตัวไม่ได้และอยู่ในสภาพคลายตัวในที่สุด

โบท็อกซ์ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามมานานหลายปี โดยนิยมฉีดเพื่อลดริ้วรอย ยกกระชับใบหน้า และปรับรูปหน้า

โดยบริเวณที่นิยมฉีดโบท็อกซ์ ได้แก่

• หน้าผาก ช่วยลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก

• หางตา ช่วยลดริ้วรอยบริเวณหางตา

• รอยตีนกา ช่วยลดริ้วรอยบริเวณรอยตีนกา

• กราม ช่วยลดกรามให้หน้าเรียว

• คอ ช่วยลดริ้วรอยบริเวณคอ

โบท็อกซ์เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากเห็นผลได้รวดเร็วและชัดเจน ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 15-30 นาที ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

​

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มชนิดชั่วคราวที่ฉีดเข้าสู่ผิวหนังชั้นกลาง (Mesoderm) เพื่อแก้ไขความบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ริ้วรอย ร่องลึก ร่องแก้ม คาง ริมฝีปาก เป็นต้น ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่

• กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี จึงช่วยเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น

• คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติในการช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิว จึงช่วยยกกระชับใบหน้า

• แคลเซียมไฮดรอกไซด์ (Calcium Hydroxide) เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงช่วยยกกระชับใบหน้าและลดริ้วรอย

• Polylactic Acid (PLA) เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการละลายได้เองตามธรรมชาติ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้

การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากเห็นผลได้รวดเร็วและชัดเจน ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 15-30 นาที ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

โบท็อกกับฟิลเลอร์แตกต่างกันยังไง

​โบท็อกซ์และฟิลเลอร์เป็นวิธีการรักษาความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ทั้ง 2 วิธีก็มีความแตกต่างกัน โบท็อกซ์เป็นสารที่ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ จึงนิยมฉีดเพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เช่น รอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว ร่องแก้ม เป็นต้น ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์จะค่อย ๆ เห็นผลภายใน 1-2 สัปดาห์ และอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม จึงนิยมฉีดเพื่อเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย ร่องแก้ม คาง ริมฝีปาก เป็นต้น ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์จะเห็นผลทันทีหลังฉีด และอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมนั้น ควรพิจารณาจากปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการรักษา

​

อ่านบทความเพิ่มเติม : โบท็อกกับฟิลเลอร์